บทความวิชาการ

วิธีอยู่กับฝุ่น 2.5 สำหรับชาวกรุงเทพฯ

1. หลีกการสัมผัสฝุ่นละออง 

        หลีกการสัมผัสกับฝุ่นละออง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก และผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืดและภูมิแพ้ ซึ่งฝุ่นละอองสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ โดยผ่านระบบทางเดินหายใจเข้าสู่โพรงจมูกไปยังถุงลมปอด จนทำให้เกิดการอักเสบหรือการระคายเคืองเรื้อรัง ในผิวหนังและดวงตาได้

2. ปิดประตูหน้าต่าง และหมั่นทำความสะอาดบ้านทุกวัน

       ในช่วงที่มีฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน ให้ปิดประตูหน้าต่างด้านที่รับลม เพื่อป้องกันฝุ่นละอองพัดเข้าบ้าน เปิดประตูหน้าต่างด้านตรงข้ามกับทิศทางลม เพื่อลดฝุ่นละอองที่เข้ามา และถ้าเป็นไปได้อาจตั้งภาชนะบรรจุน้ำไว้ที่หน้าต่างที่เปิด ซึ่งจะช่วยลดหมอกควันที่เข้ามาได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญควรหมั่นรักษาความสะอาดภายในบ้าน โดยทำความสะอาดทุกวัน  ไม่ว่าจะเป็นการดูดฝุ่นหรือถูพื้น

3. ใช้หน้ากากที่มีประสิทธิภาพ

        ใช้หน้ากากที่มีประสิทธิภาพ ในการกรองอนุภาคฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนได้ เช่น N95 หรือ P100

4. เลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง

          หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหักโหม หรือทำงานนาน ๆ 12 ชั่วโมงในที่ที่มีฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน แต่หากจำเป็นต้องทำกิจกรรมนอกบ้าน ขอให้ใช้ผ้าชุบน้ำบิดพอหมาดๆ หรือหน้ากากกันฝุ่น ที่สามารถป้องกันฝุ่นขนาดเล็กมาปิดจมูกปิดปาก และดื่มน้ำให้มาก ๆ

5. ลดการใช้รถยนต์ ไม่เผาขยะ และงดสูบบุหรี่

         ลดการใช้รถยนต์หรือใช้เท่าที่จำเป็น รณรงค์ให้ใช้รถโดยสารสาธารณะและทางเดียวกันไปด้วยกัน เพื่อไม่ให้มลพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ ทำให้อากาศแย่ไปกว่าเดิม และไม่เผาขยะโดยเฉพาะขยะที่มีสารพิษ เช่น พลาสติก ยางรถยนต์ รวมถึงขยะทั่วไป ทั้งนี้ควรงดสูบบุหรี่ในช่วงที่พบฝุ่นละอองในอากาศมากด้วย

         ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น หายใจติดขัด แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ หรือหมดสติ ให้รีบไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลโดยเร็ว หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 142

อ้างอิงจาก https://tonkit360.com/36742/

 

อาจารย์พีระพันธ์  พานโพธิ์ทอง (เขียน/เรียบเรียง)